Apple ลบแอ้พที่คาดว่า กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงใช้ชี้เป้าและซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่

Apple ลบแอ้พที่คาดว่า กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงใช้ชี้เป้าและซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่

Apple ตัดสินใจลบแอ้พ HKmap.live ออกจาก App Store โดยแอ้พดังกล่าวถูกใช้อย่างแพร่หลายในฮ่องกง ชาวฮ่องกงใช้แอ้พนี้เื่อมาร์คตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งเตือนจุดที่มีการปิดถนน ระหว่างการประท้วงในฮ่องกงที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องApple ได้ออกแถลงการโดยระบุว่า 

“เราสร้าง App Store ขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่ที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือสำหรับผู้ใช้ในการค้นหาแอ้พต่างๆ และเราเห็นว่าแอ้พ HKmap.live ถูกใช้ไปในทางที่เป็นอันตรายต่อชาวฮ่องกงและขัดต่อการบังคับใช้กฏหมาย. ผู้ใช้หลายคนติดต่อมาทางเรา และมีความกังวลเกี่ยวกับแอ้พดังกล่าว และเราได้เริ่มทำการสืบสวนทันที. มีการใช้แอ้พนี้ในการบอกตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของฮ่องกงได้มีการยืนยันว่า แอ้พนี้ถูกใช้เพื่อการชี้เป้าและซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่, คุกคามความปลอดภัยต่อสาธารณชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ที่ไม่มีการบังคับใช้กฏหมายต้องตกเป็นเหยื่อภัยคุกคาม. แอ้พนี้ละเมิดขอบเขตของเราและกฏหมายท้องถิ่น และเราได้ทำการลบแอ้พดังกล่าวออกจาก App Store เรียบร้อยแล้ว”. 

ขณะที่ทางผู้พัฒนาแอ้พนี้ได้ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาของหน่วยงานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของฮ่องกงว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีหลักฐานใดๆมาสนับสนุนเลย แอ้พนี้ไม่ได้มีการส่งเสริม ยุยงให้เกิดการก่ออาชญากรรมใดๆ มีแค่การรวบรวมข้อมูลเท่านั้น.

อยู่ดีๆก็ตกเป็นผู้ต้องหาสำรหรับ Fortnite เกมส์ออนไลน์อันกับหนึ่งของโลก ที่ตอนนี้ฟ้องร้องโดยกลุ่มคนบางหลุ่มในข้อหาทำเกมส์ออกมาให้ผู้คนติดงอมแงม แถมยังมีการเปรยว่าเกมส์ Fortnite เป็นเหมือนโคเคน โดยสำนวนคดีดังกล่าวถูกยื่นสู่ The Superior Court of Quebec ศาลสูงสุดแห่งเมือน Quebec ประเทศแคนนาดา โดยโจทย์ยื่นฟ้องไปยังเจ้าของ Fortnite อย่าง Epic Games กล่าวหาว่า Epic Games ทำเกมส์ Fortnite ออกมาเพื่อล่อให้คนติดโดยเฉพาะ ถึงกับขนาดผู้เล่นต้องมองหาหนทางรักษาอาการติดกันเลยทีเดียว โดยบางส่วนระบุว่า “การติดเกมส์ Fortnite ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้เล่นจริงๆ หลายคนถึงกับไม่กินข้าว ไม่อาบน้ำและไม่เข้าสังคม”

วันที่ 7 ต.ค. 62 เวลา 14.30 น. ข่าวทำเนียบรัฐบาลรายงาน จากการสำรวจ 66 ประเทศทั่วโลก ประเทศไทยติดอันดับที่ 8 ใน 20 ประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตด้านการค้ามากที่สุด ตามรายงาน Trade20 โดยมีตัววัด 12 ด้านภายใต้แกนหลัก 3 ด้านคือ พลวัตทางเศรษฐกิจ ความพร้อมด้านการค้า และความหลากหลายของการส่งออก

สื่อต่างประเทศรายงานว่า Samsung และ Sony หยุดสายการผลิตสมาร์ทโฟนในเมืองจีน ด้วยปัญหาคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น ค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจที่ซบเซาลง โดยเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ Samsung ก็ได้มีการปิดโรงงานในเมืองฮุยโจ และเหลือไว้เพียงแห่งเดียว และล่าสุดก็ได้มีการสั่งปิดโรงงานดังกล่าวแล้ว

อีกฟาก Sony ก็ออกมาบอกว่า กำลังจะมีการสั่งปิดโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนในปักกิ่งเร็วๆนี้ และจะผลิตในประเทศไทยเท่านั้น ขณะที่ Apple ยังคงมีฐานผลิตหลักอยู่ที่จีนเหมือนเดิม ถึงแม้จะมีเรื่องนโยบายภาษีนำเข้าจากทรัมป์คอยกวนใจอยู่ก็ตาม

Tim Cook ซีอีโอ Apple เผย “เราพยายามมาตลอด ที่จะทำราคาให้ถูกสุดเท่าที่เป็นไปได้”

Tim Cook CEO Apple ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็ปไซต์ชื่อดังของเยอรมันนี Stern ระหว่างการเข้าเยี่ยมชม Blinkist บริษัทสตาร์ทอัพใหม่ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันนี บทสัมภาษณ์ดังกล่าวเน้นไปที่เรื่องของการให้บริการ Apple TV+ และ iPhone แต่ก็มีการพูดถึงกลยุธด้านราคาของ Apple ด้วย

Tim Cook บอกว่า “เราพยายามมาตลอดที่จะทำราคาผลิตภัณฑ์ให้ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โชคเข้าข้าง ปีนี้เราลดราคา iPhone ลงได้สำเร็จ” ซึ่งก็จริงอย่างที่เขาบอก ปีนี้ราคาไอโฟนลดลงค่อนข้างสมเหตุสมผล iPhone 11 ที่ถูกกว่า iPhone XR ปีที่แล้วอย่างชัดเจน iPhone 11 Pro และ 11 Pro Max  มีราคาเท่า iPhone XS และ XS Max เมื่อปีที่แล้ว แต่ถ้าเทียบในเรื่องของเทคโนโลยีที่อัพเกรตขึ้นมา ถือว่าราคาถูกลงอยู่ดี

Apple TV+ เป็นอีกหนึ่งหมากในกลยุธด้านราคาของ Apple ด้วยราคาค่าบริการรายเดือนที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับตรีมเมอร์รายใหญ่อย่าง Netflix. อย่างไรก็ตาม Tim Cook ไม่เชื่อว่า Netflix จะกลัว Apple TV+ และมันก็ไม่ใช่เป็นอะไรที่แบบ ผู้ชนะได้ครองหมด แต่ในทางกลับกัน  Apple TV+ แค่ต้องการเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับผู้บริโภค ท่ามกลางผู้ให้บริการสตรีมมิ่งหลายๆเจ้า

อนาคตของ Apple ยังคงมีเรื่องให้ต้องคิดอยู่พอสมควร ซ้ำตอนนี้ยังถูกกดดันจากศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ที่บอกว่า Apple ผูกขาดแอ้พในตลาดทั้งหมด Tim กล่าวว่า “จะมาเรียกเราว่าเป็นผู้ผูกขาดได้ไง เรามีแค่ 30-40 แอ้พ จะเอาอะไรไปสู้กับ 2 กว่าแอ้พพวกนั้น” และย้ำว่า ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ผ่านบราวเซอร์ของพวกเขาเอง ไม่ต้องมาขออนุญาตจาก Apple ซะหน่อย

ส่วนแบ่งการตลาดของ Samsung ในตลาดจีนลดลง 1% ในช่วงไตรมาสแรก จากราวๆ 15% ในช่วงกลางปี 2013 ซึ่งสู้แบรนด์เข้าบ้านยักษ์ใหญ่อย่าง Huawei และ Xiaomi ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ได้ Park Sung-soon นักวิเคราะห์จาก Cape Investment & Securities เผยว่า “ในจีน ผู้คนซื้อสมาร์ทโฟนราคาประหยัดจากแบรนด์เจ้าบ้าน และซื้อมือถือราคาแพงๆจากแบนด์ใหญ่อย่าง iPhone และ Huawei มีพื้นที่ส่วนแบ่งให้กับ Samsung เพียงเล็กน้อยเท่านั้น” 

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป